วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558

12 วิธีแก้ขาหนีบดำ ! ขาหนีบดําทําไงดี ??


ขาหนีบดำ

ปัญหาขาหนีบดำหรือง่ามขาดำแม้ว่าจะดูเป็นเรื่องเล็กๆ ในที่ลับก็ตาม แต่ใครเลยจะรู้ว่าหากความดำมาเยือนขาหนีบแล้ว มันก็ทำให้สูญเสียความมั่นใจได้มากเลยทีเดียว โดยเฉพาะกับสาวสุดเปรี้ยวที่ชอบนุ่งบิกินี่ตัวจิ๋วหรือใส่ชุดว่ายน้ำก็มักจะเกิดอาการหวั่นๆ ทำให้บางคนถึงกับไม่กล้าจะสวมใส่มันอีกเลยทีเดียว วันนี้เรามาดูวิธีแก้ปัญหาขาหนีบดำและคืนความขาวใสให้กับขาหนีบกันดีกว่า ด้วยวิธีง่ายๆ ดังต่อไปนี้

วิธีแก้ขาหนีบดํา

  1. หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ขาหนีบดำ แน่นอนว่าถ้าไม่รู้ป้องกัน รักษาไปยังไงมันก็ไม่หาย โดยปกติแล้วเม็ดสีผิวบริเวณขาหนีบจะเกิดการเสียดสีได้ง่ายอยู่แล้ว จนทำให้เกิดรอยดำเป็นปื้นๆ มากกว่าบริเวณอื่น โดยเฉพาะกับคนที่มีน้ำหนักตัวมากๆ ก็ควรจะเริ่มหันมาลดน้ำหนักอย่างจริงจัง โดยให้เน้นท่าออกกำลังกายกระชับต้นขาเพื่อช่วยลดการเสียดสี หรือใครที่ชอบสวมใส่กางเกงในหรือกางเกงยีนส์แบบรัดๆ ก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มการเสียดสีเข้าไปใหญ่ เพราะผ้าค่อนข้างหนา ดังนั้นถ้าเลี่ยงได้ก็เป็นดี เพื่อป้องกันไม่ให้ขาหนีบดำถาวรและแก้ยากมากยิ่งขึ้น
  2. ไม่ควรใส่กางเกงในตอนนอน แต่หากจำเป็นต้องใส่ก็ให้เลือกใส่กางเกงในที่ไม่มีตะเข็ม ใส่แล้วไม่รัดติ้ว และไม่ใส่จนรัดเกินไป
  3. อะไรที่เลี่ยงได้เราก็ควรเลี่ยง แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ เราอาจจะต้องหาอะไรมารองกันกระแทกบริเวณที่เสียดสีนั้น เช่น เวลานั่งควรจะเอาเบาะนุ่มๆ มารองก้นเพื่อลดการสัมผัส
  4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ วิตามินซี วิตามินอี โดยวิตามินอีสามารถพบได้มากในอาหารจำพวก นม ถั่ว ไข่ เนื้อสัตว์ ปลา ผัก ฯลฯ ส่วนวิตามินซีจะพบได้มากในผักและผลไม้ วิตามินทั้งสองชนิดนี้มีบทบาทที่เป็นประโยชน์ต่อผิว ทำให้ผิวแข็งแรงและลดการอักเสบได้
  5. ขัดผิวซะบ้าง ให้ใช้ฟองน้ำหรือใยบวมขัดเบาๆ บริเวณขาหนีบในขณะอาบน้ำ อาจขัดไปพร้อมๆ กับตอนถูสบู่เลยก็ได้ โดยให้ทำอาทิตย์ละครั้งละสองครั้งพอ รอยดำบนขาหนีบของคุณจะค่อยๆ จางลงอย่างแน่นอน แต่ขอย้ำนะครับว่าควรขัดถูแบบเบาๆ เพราะถ้ายิ่งลงแรงขัดมากเท่าไหร่ก็อาจทำให้เกิดการอักเสบบวมแดงมากขึ้นเท่านั้น พอแดงมากๆ ความดำจากการเสียดสีก็จะมาเยือน และเยอะขึ้นกว่าเดิมด้วย
  6. สครับผิวสูตรธรรมชาติ การขัดบำรุงผิวก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วบริเวณขาหนีบออกไป จึงช่วยคืนความขาวกระจ่างใสขึ้นมาได้ โดยคุณอาจเน้นเป็นสครับสูตรธรรมชาติ ดังต่อไปนี้ (ให้ทำเพียงอาทิตย์ละประมาณ 2-3 ครั้ง)
    • สูตรมะขามเปียกผสมน้ำผึ้ง นำมาทาถูทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที แล้วล้างออก
    • สูตรมะนาว ใช้เปลือกมะนาวนำมาทาถูทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที แล้วล้างออก
    • สูตรขมิ้นผง มะขามเปียก และนมสด นำมาผสมพอให้ข้นแล้วนำไปขัดวนบริเวณขาหนีบทั้งสองข้างเบาๆ
    • สูตรน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาวครึ่งลูก และน้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ นำมาผสมให้เข้ากันใช้สครับวนเป็นวงกลมจนน้ำตาลละลายทิ้งไว้ 5 นาที แล้วล้างออก
    • สูตรสครับน้ำผึ้งเปลือกส้ม เพียงแค่คุณนำมีดมากรัดเปลือกส้มเบาๆ ให้มีรอยเปิด แล้วนำมาขยี้และบีบกับน้ำผึ้ง ใช้ขัดผิวเบาๆ
    • สูตรน้ำมันอัลมอนด์ 1 ช้อนชา น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ, นมจืด 2/3 ช้อนโต๊ะ, น้ำมะนาวครึ่งลูก และเมล็ดอัลมอนด์บด นำมาผสมให้เข้ากัน แล้วนำมาทาบริเวณขาหนีบทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จากนั้นก็ค่อยๆ สครับออกกับน้ำสะอาด
    • สูตรโยเกิร์ตผสมกับเบคกิ้งโซดา แล้วนำมาขัดเบาๆ (สูตรนี้หลายคนบอกว่าได้ผลนะ)
    • สูตรสารส้มผสมกับมะขามเปียก
    • สูตรผงวิเศษนิยมขัดกับมะนาว
  7. บำรุงด้วยน้ำมันสกัดจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว น้ำมันคาโมมายล์ หรือน้ำมันดอกลาเวนเดอร์ ก็สามารถนำมาใช้ทาเพื่อช่วยลดเลือนรอยด่างดำ ลดปัญหาผิวหยาบกร้าน และทำให้ผิวเนียนนุ่มได้ เพียงแค่นำมาทาบริเวณขาหนีบเป็นประจำทุกวันก็จะช่วยทำให้ขาหนีบของคุณขาวขึ้นได้ แถมยังเป็นการบำรุงผิวไปในตัวอีกด้วย ส่วนระยะเวลาอาจจะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและสีผิวด้วย
  8. ทาครีมลดรอยดำและเพิ่มความชุ่มชื้น อีกวิธีรักษาขาหนีบดํา คุณอาจเลือกใช้ครีมบำรุงผิวเฉพาะจุดสำหรับทาขาหนีบก็ได้ อย่างครีมทาขาหนีบดํา หรืออาจจะเป็นครีมที่มีส่วนผสมจากไวท์เทนนิ่งและวิตามินอี โดยให้นำมาทาเป็นประจำทุกครั้งหลังอาบน้ำ เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยลดความหมองคล้ำบริเวณขาหนีบได้ ส่วนยี่ห้อที่แนะนำจากเท่าที่อ่านๆ มาก็จะมี ครีมหน้าขาวของหมอจุฬา ครีมกวนอิม สมูทอี
  9. เลเซอร์ลดรอยดำ ในกรณีที่มีรอยดำคล้ำมากอาจต้องรักษาโดยใช้เลเซอร์เพื่อลบรอยดำ เพื่อยับยั้งการสร้างเม็ดสี ซึ่งการยิงเลเซอร์จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างๆ เช่น สีผิว เพราะคนผิวคล้ำจะเห็นผลได้ไม่ดีเท่าคนผิวขาว หรือใช้พวกไอพีแอล (IPL) เหมือนตอนเราใช้แก้ปัญหารอยดำของสิวบนใบหน้า หรือทำไอออนโตโฟเรซิส (lontophoresis) ซึ่เหล่านี้ก็สามารถนำมาใช้กับผิวบริเวณก้นและขาหนีบได้เช่นกัน
  10. รักษาด้วยยากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สำหรับใครที่รักษาด้วยยาทากรณีขัดก็แล้วบำรุงก็แล้วแต่ยังไม่เกิดผล ก็ต้องมาดูสภาพผิวกันก่อนว่า ดำหนามากไหม? และหมอจะให้ยาไปทาตามสภาพ ถ้าดำอย่างเดียวก็อาจจะให้ยาที่ลดการทำงานของเม็ดสี หรือถ้ามันมีอาการหนาตัวก็อาจจะใช้ยาที่ทำหน้าที่ผลัดเซลล์ผิวเล็กน้อย แต่ก็ต้องระวังกันหน่อยนะ เพราะผิวบริเวณนี้จะบางมาก หากจะไปซื้อยามาทาเองคุณควรถามเภสัชให้ดีก่อน
  11. ขาหนีบดำระหว่างตั้งครรภ์ เกิดจากฮอร์โมนในระหว่างการตั้งครรภ์เกิดการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ผิวของคุณแม่บางรายเกิดการเปลี่ยนแปลง คือ มีรอยดำคล้ำหรือมีสีเข้มขึ้นตามต้นคอ ข้อหับ รักแร้ ขาหนีบ และหัวนม ซึ่งรอยดำคล้ำต่างๆ นั้น ปกติแล้วจะหายไปเองภายหลังการคลอดบุตร ดังนั้นคุณแม่จึงไม่ต้องกังวลใจ ไม่ต้องไปทำการขัดถูหรือซื้อยามาทาแต่อย่างใด เพราะยาบางตัวอาจมีผลต่อทารกในครรภ์ได้ ดังนั้น คุณแม่ควรอดทนรอ และเมื่อเวลาผ่านไปความดำคล้ำก็ค่อยๆ จางลง จนกลับมาสู่ปกติเอง
  12. โรคผิวหนังช้าง (Acanthosis Nigricans) สำหรับผู้ที่ขาหนีบดำ โดยไม่ได้มีสาเหตุมาจากขี้ไคล ขัดเท่าไหร่ก็ขัดไม่ออก คุณอาจเป็นโรคผิวหนังช้างก็ได้ ซึ่งโรคนี้เป็นโรคผิวหนังที่มีลักษณะผิวคล้ำ หนา และมีลักษณะเหมือนกำมะหยี่ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นบริเวณคอ รักแร้ และขาหนีบ โดยมักจะเกิดขึ้นกับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีอินซูลินมากจนทำให้มีการกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังมีการเจริญมาก หากคุณเป็นโรคนี้ก็ควรจะปรับอาหารโดยการลดน้ำตาลและแป้งและหาทางลดน้ำหนักให้ได้ แล้วภาวะ insulin resistance หมดไป รอยดำก็จะค่อยๆ จางหายไปเองโดยไม่ต้องไปขัดผิวเลย
  13. เมื่อรู้ปัญหาและวิธีแก้กันไปแล้ว ก็อย่าลืมนำไปทำตามกันดูนะครับ รับรองว่าหากทำเป็นประจำรับรองได้เลยว่าความขาวใสและความมั่นใจจะกลับคืนมาอีกครั้งแน่นอน
    เรียบเรียงข้อมูลโดย ฟรินน์.คอม 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น