ตานฟัก
ตานฟัก ชื่อวิทยาศาสตร์ Crotalaria ferruginea Graham ex Benth. จัดอยู่ในวงศ์LEGUMINOSAE (FABACEAE) และอยู่ในวงศ์ย่อยPAPILIONOIDEAE[1],[2]
สมุนไพรตานฟัก มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆ ว่า หมากขิ่งหนู (แม่ฮ่องสอน), พวนดอย (ภาคเหนือ) ส่วนที่เชียงใหม่เรียก “ตานฟัก” เป็นต้น[2]
ลักษณะของตานฟัก
- ต้นตานฟัก จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุก อายุหลายปี มีความสูงของต้นประมาณ 20-100 เซนติเมตร ลำต้นมีลักษณะตั้งตรง แตกกิ่งก้านมีขนขึ้นปกคลุมอย่างหนาแน่น มีเขตการกระจายพันธุ์ในอินเดีย ศรีลังกา ไปจนถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และนิวกีนี ส่วนในประเทศไทยพบได้เกือบทุกภาค โดยมักขึ้นบริเวณทุ่งหญ้าที่เปิดโล่งในป่าผลัดใบหรือป่าดงดิบ หรือตามพื้นที่ชุ่มชื้นริมทาง ที่ระดับความสูงประมาณ 350-1,800 เมตร[1],[2],[3]

- ใบตานฟัก ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปวงรีแกมขอบขนาน รูปไข่แกมขอบขนาน รูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับ รูปใบหอก หรือรูปใบหอกแคบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 1.5-4 เซนติเมตร และยาวประมาณ 3-7 เซนติเมตร ผิวใบมีขนทั้งสองด้าน ผิวใบด้านล่างเป็นสีขาวนวล มีหูใบติดคงทน[1],[2],[3]


- ดอกตานฟัก ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบหรือปลายกิ่ง ยาวประมาณ 3-15 เซนติเมตร มีดอกย่อยประมาณ 2-8 ดอก กลีบดอกเป็นสีเหลือง ลักษณะเป็นรูปดอกถั่ว ดอกมีกลีบรองดอก ปลายแยกเป็น 2 ปากเว้าลึก มีขนสีออกแดงขึ้นหนาแน่น ส่วนกลีบดอกมี 5 กลีบ กลีบบนแผ่เป็นรูปรี กลีบด้านข้างเป็นรูปขอบขนาน ส่วนกลีบด้านล่างเชื่อมเป็นรูปท้องเรือ ปลายกลีบเป็นจะงอย ดอกมีเกสรเพศผู้ 10 อัน รังไข่เป็นรูปขอบขนาน ผิวเกลี้ยง ออกดอกในช่วงประมาณเดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคม[1],[2],[3]

- ผลตานฟัก ผลมีลักษณะเป็นฝักยาว ลักษณะของฝักเป็นรูปขอบขนาน ฝักมีขนาดกว้างประมาณ 0.8 เซนติเมตร และยาวประมาณ 2.5-3 เซนติเมตร ภายในฝักมีเมล็ดประมาณ 20-30 เมล็ด เมล็ดมีลักษณะเป็นรูปหัวใจเบี้ยวขนาดเล็ก[1],[2],[3]

สรรพคุณของตานฟัก
- ตำรายาพื้นบ้านล้านนาจะใช้ตานฟักทั้งต้นนำมาต้มกับน้ำอาบเป็นยาแก้ฟกบวม (ทั้งต้น)[1],[3]
References
- หนังสือสมุนไพรพื้นบ้านล้านนา. (ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล). “ตานฟัก”. หน้า 83.
- ระบบจัดการฐานความรู้ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ สำนักงานความหลากหลายทางชีวภาพด้านป่าไม้ กรมป่าไม้. “ตานฟัก”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: biodiversity.forest.go.th. [19 ธ.ค. 2014].
- หนังสือพรรณไม้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เล่ม 7. “ตานฟัก”.
ภาพประกอบ : www.cfh.ac.cn, www.cvh.org.cn
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น